แฟนบอลของทัพปีศาจแดง คงลุ้นจนหัวใจเกือบวาย หลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมรัก ซัดชัยในนาทีบาป เฉือนเอาชนะ โอโมเนีย แบบหืดจับ ด้วยสกอร์ 1-0 สรุปผลบอลยุโรป
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พับสนามบุกทั้งเกม แต่ก็ยิงไม่ได้สักที จนมาได้ สกอต แม็คโทมิเนย์ ที่สวมบทพระเอก ซัดประตูชัย ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 90+3
การเอาชนะ โอโมเนีย ด้วยสกอร์ 1-0 ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เก็บ 3 แต้มสำคัญได้สำเร็จ มีเพิ่มเป็น 9 แต้ม จาก 4 เกม ยังรั้งรองจ่าฝูงของกลุ่มอี ตามหลัง เรอัล โซเซียดาด ที่นำเป็นจ่าฝูง อยู่ 3 แต้ม
ขณะที่ อาร์เซน่อล จ่อลิ่วเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ แม้เพิ่งจะลงสนามไปเพียงแค่ 3 เกม หลังบุกไปเฉือน โบโด กริมท์ แบบแอบหวาดเสียวเล็กน้อย ด้วยสกอร์ 1-0
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซัดนาทีบาป เฉือน โอโมเนีย หืดจับ 1-0 สรุปผลบอลยุโรป
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การกุมบังเหียนของ เอริก เทน ฮาก เก็บชัยแบบสุดหืดจับ หลังเปิดบ้านเอาชนะ โอโมเนีย ด้วยสกอร์ 1-0 ในศึกยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม เกมที่ 4
เปิดฉากขึ้นมา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกเข้าใส่ตามสไตล์ ก่อนจะได้ทักทาย จากลูกยิงของ มาร์คัส แรชฟอร์ด และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แต่ก็กิน ฟรานซิส อูโซโฮ นายด่านของ โอโมเนีย ไม่ได้
หลังบุกกดดันอยู่พักใหญ่แต่ยังยิงประตูออกนำไม่ได้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เปลี่ยนไปเล่นงานด้วยลูกยิงไกลแทน ซึ่งก็เกือบสำเร็จด้วย น่าเสียดายที่ลูกซัดเน้นๆ ของ คาเซมิโร่ มันแม่นคานเกินไปหน่อย
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงพับสนามบุกอยู่เหมือนเดิม และได้โอกาสทองจากจังหวะที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้หลุดไปยิงโล่งๆ ซึ่ง ฟรานซิส อูโซโฮ ได้แต่มองด้วยสายตาแล้ว แต่ลูกยิงเขาดันหลุดกรอบไปเฉยเลย
หลังต้านทานมาได้จนเกือบจบ โอโมเนีย ก็พลาดจนได้ จากจังหวะที่ สก็อต แม็คโทมิเนย์ รับบอลจาก จาดอน ซานโช่ ก่อนซัดผ่านทั้งบล็อก และ ผ่านมือของ ฟรานซิส อูโซโฮ เข้าไป ช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกนำ 1-0 ในนาทีที่ 90+3
ครบ 90 นาที แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะ โอโมเนีย ด้วยสกอร์ 1-0 เก็บ 3 แต้มสำคัญได้สำเร็จ มีเพิ่มเป็น 9 แต้ม จาก 4 เกม ยังรั้งรองจ่าฝูงของกลุ่มอี ตามหลัง เรอัล โซเซียดาด ที่นำเป็นจ่าฝูง อยู่ 3 แต้ม
อาร์เซน่อล จ่อลิ่วน็อคเอาท์ หลังบุกเฉือน โบโด กริมท์ สกอร์หวิว 1-0
อาร์เซน่อล ภายใต้การกุมบังเหียนของ มิเกล อาร์เตต้า จ่อลิ่วเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ หลังบุกเฉือน โบโด กริมท์ แบบแอบหวาดเสียว ด้วยสกอร์ 1-0 ในศึกยูโรปาลีก รอบแบ่งกลุ่ม เกมที่ 3
เปิดฉากขึ้นมา อาร์เซน่อล ก็บุกเข้าใส่ทันที แต่ โบโด กริมท์ เลือกที่จะเปิดเกมสู้ ทำให้ทั้งสองทีมแลกกันอย่างสนุก แต่ยังบอลส่วนมากกองอยู่บริเวณกลางสนาม แทบไปไม่ถึงพื้นที่อันตรายของแต่ละฝั่งเลย
หลังแลกกันอยู่พักใหญ่ อาร์เซน่อล กลายเป็นฝ่ายทำได้ดีกว่า ก่อนจะออกนำ 1-0 จากจังหวะที่ บูกาโย้ ซาก้า ลากบอลเข้ากรอบหัวกระโหลก ก่อนดีดไปบล็อกแนวรับ โบโด กริมท์ แต่กลายเป็นดี เพราะมันเด้งมาโดนหน้าอกตัวเองเข้าประตูไปเฉยเลย
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง โบโด กริมท์ โหมบุกหนัก หวังจะตีเสมอให้ได้ ซึ่งพวกเขาก็เกือบทำได้ด้วย จากจังหวะกดเน้นๆ ของ โอล่า โซลบัคเค่น น่าเสียดายที่บอลมันเหินไปหน่อย ก็เลยข้ามคานออกหลังไป
ทำไปทำมา กลายเป็น อาร์เซน่อล ที่ต้องถอยร่นไปตั้งรับ หลังถูก โบโด กริมท์ พับสนามบุกเข้าใส่ และเกือบจะโดนตีเสมออีกครั้ง จากจังหวะที่ รูนาร์ เอสปียอร์ด ได้วิ่งมากดเหน่งๆ หน้าปากประตู แต่เขากลับยิงข้ามคานไปแบบไม่น่าเชื่อ
ครบ 90 นาที อาร์เซน่อล เอาชนะ โบโด กริมท์ ไปด้วยสกอร์ 1-0 เก็บ 3 แต้มสำคัญได้สำเร็จ มีเพิ่มเป็น 9 แต้ม จาก 3 เกม รั้งจ่าฝูงของกลุ่มเอ นำหน้า พีเอสวี ไอน์โฮเฟ่น รองจ่าฝูง อยู่ 2 แต้ม